เช็ครายชื่อได้ที่นี่!! 8 โรคร้าย ทำลายสุขภาพวัยทำงาน

เช็ครายชื่อได้ที่นี่!! 8 โรคร้าย ทำลายสุขภาพวัยทำงาน

แม้ในช่วงวัยทำงาน จะเป็นช่วงเวลาที่ต้องเร่งสร้างเนื้อสร้างตัว แต่อย่าลืมว่าสุขภาพก็เป็นสิ่งสำคัญที่ละเลยไม่ได้ ยิ่งรูปแบบการทำงานและไลฟ์สไตล์ในปัจจุบัน ทำให้ต้องนั่งทำงานเป็นเวลานาน ๆอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ ซึ่งเป็นสาเหตุให้สารพัดโรคตามมา ลองเช็กกันว่า โรคร้ายที่ว่านี้มีอะไรบ้างมาดูกัน

1. โรคกรดไหลย้อน

โรคนี้มีสาเหตุมาจาก การรับประทานอาหารไม่เป็นเวลา เร่งรีบจนเคี้ยวอาหารไม่ละเอียด เครียดจัด ดื่มเหล้าหนัก หรือสูบบุหรี่จัด และเมื่อคุณเป็นโรคกรดไหลย้อนแบบเรื้อรัง (ระยะเวลานานกว่า 10 ปี) ก็ อ า จ ทำ ใ ห้  เป็นโรคมะเร็งหลอดอาหารส่วนปลายได้

2. โรคอ้วน

ในปัจจุบัน “โรคอ้วน” พบมากขึ้นในคนวัยทำงาน โดยเฉพาะพวกที่ต้องนั่งทำงานติดเก้าอี้ หรือมักจะชอบทำงานไป กินอาหารไป และถ้ายิ่งไม่ค่อยออกกำลังกาย ความเสี่ยงของการเป็นโรคอ้วนยิ่งสูงขึ้น 

และที่สำคัญ โรคอ้วนยังเป็นบ่อเกิดของโรคร้าย อีกมากมาย อาทิเช่น โรคหัวใจ โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง โรคไขมันในเลือดสูง ฉะนั้น จะเป็นการดี ถ้าคุณจะหันมาใส่ใจเรื่องอาหารการกินและการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เพราะน่าจะเป็นวิธีป้องกันโรคอ้วน ที่ ดี ที่ สุ ด

3. โรคความดันโลหิตสูง

"โรคความดันโลหิตสูง” ภัยเงียบที่อาจคร่าชีวิตคุณ คุณจะรู้ตัวว่าป่วยเป็นโรคนี้ ก็เมื่อร่างกายมีอาการเตือน โดยปัจจัยที่ทำให้เกิดโรค ก็ อ า จ เ กิ ด จ า ก  โรคอ้วน ความเครียด สูบบุหรี่ หรือดื่มเหล้า กินอาหารรสเค็ม หากว่า คุณทำงานนั่งโต๊ะในสำนักงาน จะมีความเสี่ยงสูงกว่าผู้ที่ทำงานแบบใช้กำลัง 

ความดันโลหิตสูงไม่ใช่แค่โรคภัยเล็กๆ น้อยๆ ที่เกี่ยวข้องกับความดันเท่านั้น แต่ความร้ายแรงของโรคนี้ อาจนำไปสู่ภาวะอื่น ได้แก่ เส้นเลือดแตก อัมพฤกษ์ อัมพาต ไตวาย และหัวใจวาย

4. โรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบ 

คุณอาจมีเหตุให้ตกอยู่ในสถานการณ์จำเป็น ที่ทำให้ไม่สามารถปลีกตัวไปเข้าห้องน้ำได้ ทั้งแบบติดงานด่วนจริงๆ หรือคิดเอาเองว่า งานที่ทำอยู่รอไม่ได้ ( แ ต่ ห้ อ ง น้ำ ร อ ไ ด้ ) คุณรู้หรือไม่ว่า ไม่เป็นการดีเลยที่ต้องอั้นปัสสาวะนานๆ และหากอั้นปัสสาวะจนรู้สึกว่าหายปวด นั่นถือเป็นสัญญาณเตือน ว่ า คุ ณ อ า จ กำ ลั ง เ ป็ น  โรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบ

5. โรคหมอนรองกระดูกทับเส้น

อาการของโรคนี้คือจะมีอาการปวดหลังแบบเป็นๆ หายๆ หรือ มีอาการปวดร้าว ลงขา ข้างใดข้างหนึ่ง หรือ ทั้งสองข้าง ซึ่งหากยังไม่ไปพบแพทย์ อาการอาจรุนแรง ถึงขั้นเป็น อัมพฤกษ์ อัมพาต ดังนั้น เมื่อคุณมีอาการปวดหลังแบบร้าวลงขา ควรพบแพทย์เฉพาะทางเพื่อรักษาทันที 

สาเหตุของโรคอาจมาจาก การทำงานที่เคร่งเครียด และไม่มีการปรับเปลี่ยนอิริยาบถ จนเกิดการอ่อนล้า และ เสื่อมสภาพของร่างกาย ฉะนั้น ในช่วงเวลาทำงาน หมั่นเปลี่ยนอิริยาบถบ่อย ๆ หรือ ลดน้ำหนักให้สมดุล กั บ ร่ า ง ก า ย  และ หลีกเลี่ยงยกของหนัก

6. โรคคอมพิวเตอร์วิชั่นซินโดรม หรือ “โรคซีวีเอส” 

มีสาเหตุมาจากการใช้สายตาจ้องจอคอมพิวเตอร์ แท็บเล็ต หรือ โทรศัพท์มือถือ  ติดต่อกันเป็นเวลานาน (เกินความจำเป็น) ตำแหน่งการจัดวางคอมพิวเตอร์ไม่เหมาะสม มีแสงสว่าง หรือ แสงสะท้อนของจอคอมพิวเตอร์มากเกินไป ท่านั่งทำงานไม่เหมาะสม ระยะห่างระหว่างดวงตากับจอคอมพิวเตอร์ไม่พอดี สิ่งเหล่านี้ เป็นสาเหตุให้เกิด “โรคคอมพิวเตอร์วิชั่นซินโดรม” ได้ทั้งสิ้น 

ผู้ที่เป็นโรคนี้จะมีอาการตาแห้ง ตาไม่สู้แสง แสบตา ตาไม่สามารถจับโฟกัสได้ วิธีป้องกันก็คือ เพียงพักสายตาเป็นระยะๆ อย่างเช่น ทุก 20 นาที ควรพักสายตาประมาณ 20 วินาที พักด้วยการหลับตา เปลี่ยนจากจ้องหน้าจอคอมฯ ไปมองที่อื่น หรือ เปลี่ยนอิริยาบถด้วยการลุกจากที่นั่ง เพื่อไปเข้าห้อง หรือ เดินไปดื่มน้ำ ก็ ไ ด้

7. โรคลำไส้แปรปรวน (IBS)

โรคนี้ไม่ใช่สัญญาณเตือนโรคมะเร็ง และไม่เป็นอันตรายถึงชีวิต อาการของโรคนี้คือ ท้องเสีย อย่างไรก็ดี หากชีวิตคุณพบเจอกับเจ้า “โรคลำไส้แปรปรวน” จงเตรียมใจไว้เลยว่า คุณต้องเผชิญกับโรคนี้อีกหลายครั้งแน่ๆ ในตลอดช่วงชีวิตนี้ ยิ่งคุณเครียดก็ยิ่งกระตุ้นอาการของโรค

8. โรคเส้นประสาทถูกกดทับที่ข้อมือ หรือ “โรคพังผืดทับเส้นประสาท” 

เป็นโรคที่มักเกิดกับคนทำงานที่ต้องใช้คอมพิวเตอร์ หรือ งานที่ต้องใช้ข้อมือๆ ได้แก่ ครู ทํางานเย็บปักถักร้อย ช่างเจาะถนน หรือ นักกีฬาบางประเภท (ปิงปอง แบดมินตัน วอลเลย์บอล) 

โรคนี้มีวิธีการรักษาหลากหลายรูปแบบ ตั้งแต่ กินยา ทำกายภาพ หรือว่า ผ่าตัด แต่ไม่ว่าคุณจะเข้ารับการรักษาแบบไหน หากคุณยังใช้ชีวิตทำงานโดยมีพฤติกรรมในรูปแบบเดิมๆ ความเสี่ยงที่โรคนี้จะกลับมาก็มีได้อีก ดังนั้น คุณจึงควรหมั่นบริหารนิ้วและมืออยู่เสมอ เพื่อเป็นการเพิ่มความยืดหยุ่นของเอ็นข้อต่อ และกล้ามเนื้อ ก็จะช่วยลดความเสี่ยงจากอาการเส้นเอ็นอักเสบ

พอได้เห็นสาเหตุของแต่ละโรคแล้ว บอกได้เลยว่า วิธีแก้ไม่ได้มีอะไรยุ่งยาก แค่ใช้ชีวิตแบบทางสายกลาง ไม่เคร่งเครียดทำงานจนเกินไป ให้ชีวิตมีหลายด้าน เพราะฉะนั้น ลุกออกจากโต๊ะทำงานเพื่อเคลื่อนไหวร่างกายบ้าง ปรับการกินใหม่ แบ่งเวลาไปพักผ่อนและออกกำลังกาย เพียงแค่นี้ โรคร้ายต่างๆ ก็จะหลีกหนีไปจากคุณเอง