สมุนไพรพิชิตอาการปวด

ได้ผลจริง!! ทำเพียง 3 นาที ท่าบริหารป้องกันออฟฟิศซินโดรม รู้สึกใจหาย เมื่อเห็นเพื่อนร่วมงานเข้าออกโรงพยาบาลเพื่อรักษาโรคออฟฟิศซินโดรม ทีละคนสองคน ก็ได้แต่ภาวนาว่ารายต่อไปคงไม่ใช่เรา ที่ต้องทนทรมานกับการฝังเข็ม บางคนขนาดถึงขั้นต้องผ่าตัด เสียเงินเป็นแสนๆ เรื่องแบบนี้แค่สวดมนต์ภาวนาไม่ได้ช่วยอะไร แต่มันต้องเริ่มที่ตัวเราต้องยืดเส้นยืดสาย เวลานั่งทำงานหน้าจอคอมพิวเตอร์เป็นเวลานานๆ เพียงแค่ 3 นาที รับรองเลยว่าอาการปวดหลังปวดไหล่หายเป็นปลิดทิ้ง ท่าที่ 1 นั่งเก้าอี้ ยกขาขวาท่อนล่างส่วนน่องขาช้าๆ ให้ลอยสูงอยู่ระดับเข่า (หรือ เท่ากับระดับเบาะเก้าอี้) ให้ต้นขายังคงติดเก้าอี้ จากนั้น ยกแขนขึ้นทั้ง 2 ข้าง ก้มหลังให้อกติดต้นขา เข่าชิด ยืดแขนทั้ง 2 ข้างแตะปลายเท้าทั้ง 2 ข้าง จบ 1 เซ็ต ครั้งที่ 2 สลับขาเป็นข้างซ้าย ทำเหมือนข้างขวา แล้วทำสลับข้างไปเรื่อยๆ ราว 1-2 นาที ท่าที่ 2 ยกไหล่ทั้ง 2 ข้าง ขึ้นลง 2 ครั้ง ยกแขนขวาเหนือศีรษะพร้อมเอียงศีรษะไปข้างซ้ายช้าๆ ค้างไว้ จากนั้นยกไหล่ทั้งสองข้างขึ้นลง และยกแขนซ้ายเหนือศีรษะ พร้อมเอียงศีรษะช้าๆ ไปข้างขวา ทำสลับข้างไปเรื่อยๆ ราว 1-2

เช็ครายชื่อได้ที่นี่!! 8 โรคร้าย ทำลายสุขภาพวัยทำงาน แม้ในช่วง วัยทำงาน  จะเป็นช่วงเวลาที่ต้องเร่งสร้างเนื้อสร้างตัว แต่อย่าลืมว่า สุขภาพ ก็เป็นสิ่งสำคัญที่ละเลยไม่ได้ ยิ่ง รูปแบบการทำงาน และ ไลฟ์สไตล์ในปัจจุบัน ทำให้ต้องนั่งทำงาน เป็นเวลานาน ๆ อยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ ซึ่งเป็นสาเหตุให้สารพัดโรคตามมา   ลองเช็กกันว่า โรคร้ายที่ว่านี้มีอะไรบ้างมาดูกัน 1. โรคกรดไหลย้อน โรคนี้มีสาเหตุมาจาก การรับประทานอาหารไม่เป็นเวลา เร่งรีบจนเคี้ยวอาหารไม่ละเอียด เครียดจัด ดื่มเหล้าหนัก หรือสูบบุหรี่จัด และเมื่อคุณเป็นโรคกรดไหลย้อนแบบเรื้อรัง (ระยะเวลานานกว่า 10 ปี) ก็ อ า จ ทำ ใ ห้  เป็นโรคมะเร็งหลอดอาหารส่วนปลายได้ 2. โรคอ้วน ในปัจจุบัน  “โรคอ้วน”  พบมากขึ้นในคนวัยทำงาน โดยเฉพาะพวกที่ต้องนั่งทำงานติดเก้าอี้ หรือมักจะชอบทำงานไป กินอาหารไป และถ้ายิ่งไม่ค่อยออกกำลังกาย ความเสี่ยงของการเป็นโรคอ้วนยิ่งสูงขึ้น  และที่สำคัญ โรคอ้วนยังเป็นบ่อเกิดของโรคร้าย อีกมากมาย อาทิเช่น โรคหัวใจ โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง โรคไขมันในเลือดสูง ฉะนั้น จะเป็นการดี ถ้าคุณจะหันมาใส่ใจเรื่องอาหารการกินและการ

ลดน้ำตาลในเลือดด้วยสมุนไพรนี้ ถ้าเลือกได้คงไม่มีใครอยากเป็นโรคเบาหวานหรอก จริงไหมคะ แต่ความเย้ายวนของอาหารหวานในบ้านเราก็ช่างชวนให้ทานได้เรื่อยๆ ไม่มีเบื่อ ไม่ว่าจะเป็น น้ำแข็งใส  สมูทตี้ ขนมปัง ฮันนี่โทส บิงซู ชา กาแฟ รวมไปถึงขนมไทยที่อร่อยเลิศรส แต่น้ำตาลก็มากมายเหลือหลาย (คนทำขนมไทยคงรู้ดีว่าขนมแต่ละชนิดใช้น้ำตาลมากขนาดไหน) แต่เดี๋ยวก่อน อาหารที่ทานเข้าไปแล้ว เราแก้ไขอะไรไม่ได้ แต่นับจากนี้ไปลดการทานอาหารหวานลง แล้วทานอาหารวิเศษที่จะช่วยลดน้ำตาลในเลือดเราอย่างได้ผล อย่างอาหารจำพวกนี้ มีอะไรบ้าง ไปดูกันเลย มะระขี้นก ความขมของมะระขี้นกนี่แหละยอดเยี่ยมสุดๆ มะระขี้นกช่วยเสริมการหลั่งอินซูลินจากตับอ่อน เพิ่มความไวต่ออินซูลิน ลดการสร้างน้ำตาลจากตับ เสริมการเผาผลาญน้ำตาล เพิ่มความทนต่อกลูโคส และ ยังยับยั้งการหลั่งกลูโคสในลำไส้เล็ก อีกด้วย  น อ ก จ า ก นี้  มะระขี้นกยังสามารถชะลอความผิดปกติของไต การเกิดต้อกระจก การเสื่อมของเส้นประสาทซึ่งเป็นผลมาจากการที่มีระดับน้ำตาลในเลือดสูงเป็นเวลานาน หรือ ไม่สามารถควบคุมระดับน้ำตาลเลือดให้ปกติ ไ ด้ อี ก ด้ ว ย การรับประทานมะระขี้

บรรเทาอาการโรคข้ออักเสบ ด้วยการกินอาหารนี้ โดยทั่วไป เป็นที่รู้กันว่า แท้จริงแล้วการรักษาโรค ข้ออักเสบ  (arthritis) ทุกชนิด ไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ การใช้ยาอาจได้ผลสำหรับผู้ป่วยบางรายเท่านั้น แต่อย่างไรก็ดี เมื่อเร็วๆ นี้ มีผลงานวิจัยเปิดเผยว่า อาหารบางอย่างเมื่อรับประทานแล้ว สามารถรักษาอาการปวดข้อต่อจากข้ออักเสบได้ อาหารสำหรับโรคข้ออักเสบชนิดต่างๆ ที่คุณควรรับประทานอาหาร มีดังต่อไปนี้ 1. ปลา กรดไขมันโอเมก้า 3 (omega 3-fatty) ศัตรูสำคัญของข้ออักเสบ เป็นที่รู้จักกันมานานแล้วว่า กรดไขมันโอเมก้า 3 สามารถหยุดยั้งอาการปวดและอักเสบที่เกิดจากข้ออักเสบได้ เมื่อร่างกายของเราดูดซึมกรดไขมันโอเมก้า 3 เข้าไปแล้ว กรดไขมันโอเมก้า 3 จะถูกเปลี่ยนเป็น resolvins สารเคมีชนิดหนึ่งที่สามารถลดอาการอักเสบได้ อย่างมีนัยสำคัญ ดังนั้น ผู้ป่วยข้ออักเสบจะรู้สึกว่าข้อต่อมีอาการค่อนข้างดีขึ้น หลังจากร่างกายได้รับประทานอาหารที่มีกรดไขมันโอเมก้า 3 เข้าไปในปริมาณหนึ่ง กรดไขมันโอเมก้า 3 นี้ ส่วนใหญ่พบในปลา โดยเฉพาะ ปลาจากน้ำเย็น เช่น ปลาแซลมอน ปลาทูน่า เป็นต้น ดังนั้น จึงควรเพิ่มอาหารประเภทนี้เข้าไปใน

แค่ดื่มวันละแก้ว ลดการเกิดโรคเกาต์ได้ คนส่วนใหญ่เข้าใจว่า โรค เกาต์เกิด จากการกินไก่มากๆ หลายคนจึงมัวระวังแต่เรื่องการทานไก่ จริงๆ แล้วสาเหตุของโรคเกาต์ อยู่ที่ระดับ  “กรดยูริก”  ในร่างกาย ที่ มี ป ริ ม า ณ สูงมากเกินไป แต่ถ้าหากอยากหลีกเลี่ยงโรคเกาต์กันจริงๆ  เฟซบุ๊คเพจ Dr.Aki – หมออาคิ  แนะให้ “ดื่มนม” ค่ะ แล้วนมจะช่วยลดโอกาสเกิดโรคเกาต์ได้อย่างไรกัน ไปอ่านคำแนะนำของคุณหมอกันเลย! “โรคเกาต์”  เป็นโรคข้ออักเสบชนิดหนึ่ง ที่ทำให้เกิดอาการปวด อย่างรุนแรง เกิดจาก ระดับกรดยูริกในร่างกายสูงเป็นเวลานาน จนก่อตัวเป็นผลึกยูริก แล้วมักไปเกาะอยู่ตามกระดูกส่วนข้อ ผลึกยูริกเมื่อเกาะอยู่กับกระดูกจะไม่แสดงอาการอะไรเลย จ น ก ร ะ ทั่ ง  เมื่อมีบางส่วนที่เกาะอยู่ได้หลุดลงมาในข้อ ทันใดนั้นเองจะมีเม็ดเลือดขาวจำนวนมากเข้ามาจัดการกับส่วนที่หลุดออกมานี้ แล้วก่อให้เกิดการอักเสบของข้อ ดังนั้น การทำให้กรดยูริกในร่างกายอยู่ในช่วงปกติ จึงเป็นเรื่องสำคัญมากในการป้องกันไม่ให้เป็นโรคเกาต์ แล้วกรดยูริกในร่างกายเรามาจากไหน? แท้จริงแล้วกว่า 80% ของปริมาณกรดยูริกในร่างกาย เกิดจากภายในร่างกายเอง ส่วนอีก

ข้อไหล่ติดในผู้สูงอายุ รักษาได้ด้วยวิธีนี้ ข้อไหล่ติด  เป็นภาวะที่ผู้ป่วยมีอาการปวดไหล่และเคลื่อนไหวข้อไหล่ได้ไม่สุดพิสัยข้อ ทั้งจะขยับเอง หรือ ให้ผู้อื่นช่วยขยับให้ สาเหตุ ที่ทำให้ ข้อไหล่ติด ปัจจุบัน ยั ง ไ ม่ ท ร า บ ส า เ ห ตุ ที่ แ น่ ชั ด แต่ทางการแพทย์พบว่ามีการอักเสบของเยื่อหุ้มข้อ และเยื่อหุ้มข้อ เกิดการหนาตัว  จนเป็นพังผืด ต า ม ม า ทำให้ผู้ป่วยเคลื่อนไหวข้อได้ลดน้อยลง พบประมาณ 2-5% ของประชากร ผู้หญิงมักเป็นมากกว่าผู้ชาย มักเกิดกับแขนที่ไม่ถนัด ม า ก ก ว่ า ข้างที่ถนัด  ประมาณ 20-30% ของ ผู้ป่วย มีโอกาสที่จะเกิดไหล่ติดได้ทั้ง 2 ข้าง พบบ่อยในผู้ที่มีอายุอยู่ในช่วง 40 - 60 ปี และพบว่าผู้ที่เป็น โรคหัวใจ  โรค เบาหวาน   และ โรคของต่อมธัยรอยด์   มีโอกาสเกิดภาวะข้อไหล่ติด ไ ด้ ม า ก ก ว่ า คนทั่วไป อาการ ของโรคข้อไหล่ติด มี 3 ระยะ ได้แก่ ระยะปวด ระยะข้อติด และระยะฟื้นตัว ระยะปวด  ผู้ป่วยจะรู้สึกอาการปวดค่อยๆ เป็นมากขึ้น  โดยจะปวดเมื่อเคลื่อนไหวข้อไหล่ มีอาการปวดมากตอนกลางคืนถึงขั้นรบกวนการนอน พิสัยการเคลื่อนไหวข้อค่อยๆ ลดลง ระยะนี้มักอยู่นาน 2 - 9 เดือน ระยะข้อติ

วิธีนี้เพิ่มความแข็งแรงให้กับกระดูก ก่อนถึงวัยสูงอายุ ก่อนที่บางอย่างจะเสียไป เราควรใช้อย่างทะนุถนอม และบำรุงรักษาไว้ให้ดีที่สุด คำกล่าวนี้ไม่ได้พูดถึงความรัก มิตรภาพ  ความสัมพันธ์ หรือ สิ่งอื่นๆ อย่างเลื่อนลอยไกลตัว เพราะแท้จริงแล้ว ยังมีสิ่งที่อยู่ใกล้ตัวเรามาก อย่างที่เราควรรู้คุณค่า ก่อนที่เราจะสูญเสียไป นั่นก็คือ สุขภาพ กระดูก เป็นอวัยวะของร่างกายที่มีความแข็งแรงคงทน สำคัญยิ่งต่อการขยับเขยื้อนร่างกายของเรา ให้สามารถทำกิจกรรมต่างๆ ในชีวิตประจำวันได้ แต่เป็นอวัยวะที่อยู่ภายในร่างกายซึ่งเรามองไม่เห็น เมื่อเกิดความผิดปกติ จนกระทั่งวันที่ร่างกายบางส่วนของเราขยับเขยื้อนไม่ได้ดังใจ หรือเกิดความเจ็บปวดเมื่อเกิดอุบัติเหตุ หากวันนี้เราสามารถบำรุงรักษากระดูกให้แข็งแรงก่อนเริ่มเข้าสู่วัยชราได้ ก็จะช่วยลดอาการบาดเจ็บของกระดูกได้ รวมไปถึงสามารถป้องกันโรคกระดูกได้มากขึ้นอีกด้วย 5 วิธีเพิ่มความแข็งแรงให้กับ “กระดูก” ก่อนเข้าวัยสูงอายุ 1. รับประทานอาหารที่ช่วยบำรุงกระดูก  หมั่นรับประทานอาหารที่มี แคลเซียม และ วิตามินดี ที่ช่วยบำรุงกระดูกในชีวิตประจำวัน (ทาน วิตามินดี ร่วมกับ แคล