เท้าบวมเพราะอย่างนี้

เท้าบวมเพราะอย่างนี้


แม้ว่าเท้าจะเป็นอวัยวะที่สำคัญ มากที่สุด อวัยวะหนึ่ง ของร่างกาย เพราะในแต่ละวัน เราใช้งานเท้า  ค่อนข้างหนัก และน้อยคน ที่จะดูแลเอาใจใส่เท้า ได้ดี เท่ากับ อวัยวะอื่นๆ นอกจากเรา จะใช้เท้า ในการก้าวเดิน และคอยรองรับ น้ำหนักของเรา ทั้งตัว ทุกวันแล้ว เ ท้ า ยั ง เ ป็ น อ วั ย ว ะ ที่ ส่ ง สั ญ ญ า ณ ผิ ด ป ก ติ ข อ ง ร่ า ง ก า ย เ ร า ไ ด้ อ ย่ า ง แ ม่ น ยำ อี ก ด้ ว ย  เมื่อเท้าบวมขึ้นมา แสดงว่า ร่างกายของคุณ มีอะไรผิดปกติแล้วล่ะ

10 เหตุผลที่ทำให้ “เท้าบวม”

  1. นั่ง หรือยืนนานเกินไป

อาชีพที่ต้อง นั่ง หรือ ยืน นานๆ โดยไม่ค่อย ได้มีโอกาส ขยับร่างกาย เช่น แพทย์ พยาบาล ช่างทำผม เชฟ พนักงานรักษาความปลอดภัย เด็กเสิร์ฟ อาจทำให้ขาของคุณ ไม่ค่อย ได้ขยับเขยื้อน มีความเสี่ยง ที่ ร ะ บ บ ไ ห ล เ วี ย น โ ล หิ ต จ ะ ไ ม่ ค่ อ ย ไ ด้ ทำ ง า น เ มื่ อ เ ลื อ ด ไ ห ล เ วี ย น ไ ป ที่ ข า แ ล ะ เ ท้ า ช้ า ล ง จึ ง เ ป็ น ส า เ ห ตุ ใ ห้ เ ท้ า ดู บ ว ม ม า ก ขึ้ น โดยเฉพาะ คนที่นั่งไขว่ห้าง ส่วนที่ขาทับกัน ยิ่งทำให้ ระบบไหลเวียนโลหิต ไปที่ขาช่วงล่าง ยิ่งแย่ ไปกว่าเดิม จึงมีส่วนทำให้ เท้าบวม ได้มากขึ้น อีกด้วย

  1. ทานโซเดียมมากเกินไป

นอกจาก ก า ร ท า น โ ซ เ ดี ย ม ม า ก เ กิ น ไ ป จ ะ ทำ ใ ห้ ห น้ า บ ว ม เหมือนอย่างที่ สาวๆ หนุ่มๆ หลายคน เคยทราบกัน มาบ้าง แ ล้ ว ยั ง ทำ ใ ห้ ส่ ว น อื่ น ๆ ข อ ง ร่ า ง ก า ย  เ ช่ น  เ ท้ า บ ว ม ไ ด้ อี ก ด้ ว ย (เป็นอาการบวมน้ำ) องค์กรโรคหัวใจแห่งประเทศสหรัฐอเมริกา ระบุว่า เราควรทานโซเดียม ไม่เกิน 2,300 มิลลิกรัม ต่อวัน หรือ วันละไม่เกิน 1 ช้อนชา เท่านั้น นอกจากโซเดียม จะมาจากเกลือ ในอาหารปกติ ที่เราทานแล้ว ยังมาพร้อมกับ ขนมขบเคี้ยว เครื่องดื่มบางชนิด รวมไปถึง อาหารสำเร็จรูปต่างๆ ด้วย ดังนั้น หากหลีกเลี่ยง อาหารเหล่านี้ได้ ก็จะช่วย ลดอาการบวม ของเท้า จากโซเดียม ได้เช่นกัน

3. ผลข้างเคียงจากการทานยา

ย า ที่ ช่ ว ย ล ด ค่ า น้ำ ต า ล ใ น เ ลื อ ด ข อ ง ผู้ ป่ ว ย โ ร ค เ บ า ห ว า น  เ ช่ น Avandia หรือ Actos ก็ ส า ม า ร ถ ส่ ง ผ ล ข้ าง เ คี ย ง ต่ อ ร่ า ง ก า ย โ ด ย ทำ ใ ห้ ร่ า ง ก า ย เ กิ ด อ า ก า ร บ ว ม ไ ด้ เพราะตัวยาเหล่านี้ อาจทำให้ ร่างกาย กำจัดโซเดียมส่วนเกิน ได้น้อยลง นั่นเอง นอกจากนี้ ยารักษาโรคหลอดเลือดหัวใจ อย่าง Loniten และ Apesoline ที่ทำหน้าที่ ขยายหลอดเลือด ทำให้ ผนังหลอดเลือด คลายตัว เพื่อให้เลือด ไหลเวียน ได้ดียิ่งขึ้น นั้น ก็อาจส่งผล ทำให้เกิดอาการเท้าบวม ได้เช่นกัน

  1. ตั้งครรภ์

มีหลายสัญญาณ ที่บ่งบอกว่า เราอาจกำลังตั้งครรภ์ อ า ก า ร เ ท้ า บ ว ม เ ป็ น ห นึ่ ง ใ น อ า ก า ร นั้ น โ ด ย เ ฉ พ า ะ ช่ ว ง  3  เ ดื อ น แ ร ก จ ะ ส า ม า ร ถ  เ ห็ น ไ ด้ ชั ด เ จ น ว่ า เ ท้ า บ ว ม ก ว่ า ป  ก ติ และเท้าจะยิ่งบวม ยิ่งขึ้น เมื่อระยะเวลาผ่านไป นานขึ้นเรื่อยๆ ในช่วงที่ตั้งครรภ์อยู่ และยังยิ่งบวมชัดเจน ในช่วงเย็น ของวัน หรือ ช่วงที่ออก ไปอยู่ข้างนอก ท่ามกลางอากาศร้อนๆ เป็นอาการที่ ไม่ได้เป็นอันตรายอะไร กับร่างกาย เพราะจะมีทั้ง ช่วงบวม และช่วงที่หายบวมไปเอง โดยไม่ต้องทำอะไร แต่หากพบว่า มีอาการบวม ทั้งมือและเท้า มากผิดปกติ ควรปรึกษาแพทย์ เพื่อขอคำปรึกษา และตรวจสุขภาพ อย่างละเอียด

  1. น้ำหนักมากเกินไป

เมื่อเท้า เป็นส่วนที่รับน้ำหนัก ของร่างกาย ทั้งหมดเอาไว้ ตลอดทั้งวัน และ อ า ก า ร เ ท้ า บ ว ม   จ า ก น้ำ ห นั ก ที่ เ พิ่  ม ขึ้ น มั ก เ ป็ น ส า เ  ห ตุ ต้ น ๆ ที่ พ บ บ่ อ ย ม า ก ที่ สุ ด ในบรรดาสาเหตุทั้งหมด หากเริ่มต้นออกกำลังกาย จนน้ำหนัก อยู่ในเกณฑ์ปกติ ได้แล้ว เท้าจะหายบวมได้เอง โดยไม่ต้อง เข้ารับการรักษาใดๆ

  1. ข้อเท้า หรือเท้ามีอาการบาดเจ็บ

อ า ก า ร เ ท้ า บ ว ม ที่ ม า พ ร้ อ ม อ า ก า ร บ า ด เ จ็ บ มั ก ม า จ า ก อุ บั ติ เ ห ตุ ที่ เ กิ ด ขึ้ น กั บ ข้ อ เ ท้ า ห รื อ เ ท้ า ห ลั ง อ อ ก กำ ลั ง ก า ย ห รื อ อุ บั ติ เ ห ตุ ต่ า ง ๆ  เ ช่ น  เ ท้ า แ พ ล ง  เมื่อเท้า เกิดอาการอักเสบ จึงมีอาการ ปวดบวมตามมา อาการบวม จะดีขึ้น เมื่อประคบน้ำแข็ง ภายใน 48 ชั่วโมง และเมื่อผ่านไปสักระยะ สามารถประคบน้ำอุ่น เพื่อช่วยคลายกล้ามเนื้อ และบรรเทาอาการอักเสบ ให้ดีขึ้นได้ หรือ จะทายา หรือทานยา ลดอาการอักเสบ ของกล้ามเนื้อ ร่วมด้วยก็ได้ (แต่ยาทาน เพื่อคลายกล้ามเนื้อ ควรใช้ เมื่อจำเป็น เท่านั้น)

  1. ฮอร์โมนกำลังเปลี่ยนแปลง

ช่วงที่ ฮ อ ร์ โ ม น มี ก า ร เ ป ลี่ ย น แ ป ล ง ปั่ น ป่ ว น เ ล็ ก น้ อ ย คื อ ช่ ว ง กำ ลั ง มี ป ร ะ จำ เ ดื อ น นั่นเอง และช่วงนี้เอง ที่เราจะสังเกตเห็น ความแตกต่าง ของตัวเองได้ ในหลายๆ ด้าน ทั้ง รู้ สึ ก ว่ า ตั ว บ ว ม ขึ้ น  สิ ว ขึ้ น  ห น้ า อ ก ใ ห ญ่ ขึ้ น  ร ว ม ไ ป ถึ ง  เ ท้ า ที่ อ า จ บ ว ม ขึ้ น ได้เช่นกัน หากอยากลดอาการบวม ในช่วงนี้ ควรดื่มน้ำ ให้มากขึ้น ลดการทานอาหาร ที่มีโซเดียมสูง และออกกำลังกาย เป็นประจำ จะช่วยลดอาการบวม ของร่างกาย ทั้งหมดได้

  1. เกิดภาวะบวมน้ำเหลือง

เมื่อ ร ะ บ บ น้ำ เ ห ลื อ ง มี อ า ก า ร ผิ ด ป  ก ติ  ร่ า ง ก า ย อ า จ มี อ า ก า ร เ ตื อ น ด้ ว ย อ วั ย ว ะ ต่ า ง ๆ  ข อ ง ร่ า ง ก า ย ที่ บ ว ม ขึ้ น ซึ่งอาจส่งผล ต่อการทำงาน ของภูมิคุ้มกัน ของร่างกาย ด้วย โดยภาวะบวมน้ำเหลือง อาจเกิดขึ้น กับคน ที่มีน้ำหนักตัว มากเกินไป ผู้ป่วยโรคมะเร็ง หรือ ผู้ป่วย ที่กำลังอยู่ในช่วง ติดเชื้อได้ แต่หากคุณ ไม่ได้อยู่ในกลุ่มนี้ แล้วมีอาการบวมทั้งตัว อย่างหาสาเหตุไม่ได้ ควรรีบพบแพทย์ โดยเร็วที่สุด

  1. ลิ่มเลือดอุดตันที่ขา

ภ า ว ะ ลิ่ ม เ ลื อ ด อุ ด ตั น ที่ ข า ส า ม า ร ถ เ กิ ด ขึ้ น ไ ด้ กั บ ห ล า ย ๆ ค น ที่ นั่ ง ทำ ง า น น า น เ กิ น ไ ป โ ด ย ไ ม่ ข ยั บ ข า  หรืออาจจะเกิดขึ้น กับผู้ป่วย ที่ไม่สามารถขยับร่างกาย ได้นานๆ เมื่อลิ่มเลือดอุดตัน ทำ ใ ห้ เ ลื อ ด ไ ห ล เ วี ย น ไ ด้ ลำ บ า ก จ น อ า จ เ กิ ด อ าก า ร บ ว ม ที่ ข า แ ล ะ เ ท้ า ไ ด้  มีทั้งแบบที่ กดแล้วเจ็บ และกดแล้วไม่เจ็บ รวมไปถึง สีของขา และเท้า อาจเปลี่ยนแปลง  เป็นสีที่เข้มขึ้น หากมีอาการดังกล่าว ควรปรึกษาแพทย์ เพื่อทำการรักษา

  1. ภาวะไต/ตับวาย

เมื่อไต เป็นอวัยวะที่รับผิดชอบ ดูแล ปริมาณของเหลว ภายในร่างกาย ห า ก ไ ต ไ ม่ ส า ม า ร ถ ขั บ ข อ ง เ ห ล ว ที่ ไ ม่ ต้ อ ง ก า ร อ อ ก จ า ก ร่ า ง ก า ย ไ ด้  จึ ง ทำ ใ ห้  ร่ า ง ก า ย บ ว ม น้ำ แ ล ะ เ ป็ น ส า เ ห ตุ ข อ ง อ า ก า ร เ ท้ า บ ว ม ไ ด้ เช่นเดียวกับ ตับ ที่อาจทำให้ เกิดภาวะความดันโลหิตสูง จากการดื่มแอลกอฮอล์ มากเกินไป จนทำให้ เข้าสู่ ภาวะตับแข็ง และส่งผลให้ ขา และเท้า บวมได้ ดังนั้น หากคิดว่า มีความเสี่ยง ที่สุขภาพของไต และตับ ไม่ค่อยจะดี เช่น เป็นคนทาน รสเค็มจัด สูบบุหรี่จัด หรือดื่มแอลกอฮอล์จัด ควรพบแพทย์ เพื่อทำการตรวจร่างกาย โดยละเอียด ต่อไป

ลิงค์น่าสนใจ
คอเคล็ด
กระดูกสันหลังเสื่อม
เอ็นร้อยหวายอักเสบ
กระดูกสันหลังคด
ช้ำ
ปวดน่อง
ข้อเท้าแพลง
ปวดกล้ามเนื้อ
ปวดข้อเท้า
กล้ามเนื้ออักเสบ

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

คชาบาล์ม ยานวดแก้ปวดสำหรับนักวิ่ง

ดื่มน้ำเซเลอรี่หรือขึ้นฉ่ายฝรั่งดีอย่างนี้